คุณรู้หรือไม่ว่าอาหาร thermogenic คืออะไร?

ใครก็ตามที่มีน้ำหนักเกินสองสามปอนด์และทนทุกข์ทรมานเพื่อให้ได้ร่างกายที่สมบูรณ์แบบย่อมคิดว่ามันคงจะดีถ้ามีวิธีเผาผลาญแคลอรี่โดยใช้ความพยายามน้อยที่สุด กำจัดไขมันโดยไม่ปิดปากใช่มั้ย การรับอาหารที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ในทางตรงกันข้ามอาจดูเหมือนความจริงก็คือการกินแคลอรี่เผาไหม้ แต่แน่นอนว่าอาหารบางอย่างไม่สามารถทำหน้าที่นี้ในร่างกายได้ ชื่ออาจดูแปลกในตอนแรก แต่รู้ว่าอาหารเหล่านี้อาจเป็นพันธมิตรที่ดีของคุณ


อาหาร thermogenic มีผลต่อร่างกายอย่างไร?

อาหารเหล่านี้มีผลกระทบความร้อน (หรือ thermogenesis) ที่ชักนำให้ร่างกายใช้พลังงานในระหว่างกระบวนการย่อยอาหาร ยิ่งการย่อยอาหารยากขึ้นเท่าใดการกระตุ้นให้เกิดผลกระทบจากความร้อนของอาหารก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อาหารที่มีผลต่อความร้อนต่ำจะถูกบริโภคเร็วขึ้นและทำให้ไขมันสะสมในร่างกายเพิ่มขึ้น

บัญชีอาหาร thermogenic บัญชี 10% ของค่าใช้จ่ายพลังงานทั้งหมดในระหว่างการย่อยอาหาร ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของอาหารค่าความร้อนของอาหารอาจแตกต่างกันมากเช่นคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนสูงกว่าไขมันหลังจากบริโภค

เมื่ออาหารมีเครื่องเทศผลของความร้อนจะขยายออกไปอีกจึงทำให้แคลอรี่ถูกเผาผลาญมากขึ้น


พบกับอาหารที่ทำให้ร้อน

ในรายการ thermogenic เป็นอาหารที่อร่อยมากที่พบได้ง่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต แน่นอนว่าคุณใช้บางคนอยู่แล้วและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีพลังเหลือล้น เราสามารถพูดถึง: พริกหวาน, พริกแดง, มัสตาร์ด, ขิง, อบเชย, flaxseed, น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์, ชาร์ท, หน่อไม้ฝรั่ง, ผักคะน้า, ผักคะน้า, บร็อคโคลี่, ส้ม, กีวี มีคาเฟอีน, กัวราน่า, ชาเขียวและน้ำเย็นรวมถึงไขมันผัก, ไขมันมะพร้าวและผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลต

และระวังที่จะหยุดกินอาหารอื่น ๆ เพื่อให้การตั้งค่าเฉพาะกับอุณหภูมิในความตั้งใจในการเผาผลาญแคลอรี่จำนวนมากไม่ใช่ความคิดที่ดี หากคุณต้องการลดน้ำหนักอย่างแท้จริงคุณควรทานอาหารที่มีความสมดุลโดยไม่มีข้อ จำกัด มากเกินไปที่รวมปริมาณและประเภทของอาหารต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

เหมาะคือการรวมอาหาร thermogenic ในเมนูแบบวันต่อวันในการวางแผนการรับประทานอาหารที่เตรียมไว้อย่างดี การบริโภคเฉพาะอาหารเหล่านี้ในความพยายามที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดของพวกเขาอาจเป็นอันตรายและนำไปสู่การขาดสารอาหารที่สำคัญที่มีประโยชน์สำหรับร่างกายให้ทำงานได้ดี

โง่มาตั้งนาน!ของ 6 อย่างนี้ ห้ามแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด นอกจากไม่รักษาให้อยู่นานๆแล้ว ยังทำลายให้เสียของ (มีนาคม 2024)


  • อาหาร
  • 1,230